น้ำตาลไม่ได้เป็นตัวเดียวที่ทำให้เราอ้วน แต่การบริโภคน้ำตาลมากเกินไปอาจมีผลในการเสี่ยงต่อโรคอ้วนและโรคต่าง ๆ ในระยะยาว เป็นเหตุทำให้เกิดปัญหาสุขภาพเช่นโรคเบาหวาน โรคหัวใจ และความดันโลหิตสูง นอกจากนี้ การบริโภคน้ำตาลมากๆ อาจทำให้เกิดการสะสมไขมันในร่างกายและอยู่ในเสี่ยงที่จะอ้วนขึ้นด้วย
ดังนั้น การบริโภคน้ำตาลควรควบคุมให้มีปริมาณที่เหมาะสมเพื่อรักษาสุขภาพที่ดี ควรลดการบริโภคน้ำตาลมากเกินไปและเลือกใช้แหล่งพลังงานอื่น ๆ ที่มีคุณค่าโภชนาการสูง อย่างผักผลไม้ แป้งธัญพืช และโปรตีนคุณภาพดี เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่จำเป็นและลดความเสี่ยงต่อโรคอ้วนและโรคต่าง ๆ ในระยะยาว.
น้ำตาลที่พบในอาหารและเครื่องดื่มส่วนใหญ่มาจากสารกลูโคส (glucose) และฟรักโทส (fructose) ซึ่งเป็นชนิดของน้ำตาลที่พบในธรรมชาติ น้ำตาลสามารถทำมาจากหลายแหล่งต่าง ๆ โดยในกระบวนการอุตสาหกรรมมักนิยมใช้น้ำตาลที่ได้จากน้ำตาลอ้อยหรือบริสุทธิ์ (sucrose) และน้ำตาลที่ได้จากอินเวิร์ต (corn syrup) ซึ่งสามารถผลิตในอาหารอุตสาหกรรมและเครื่องดื่มในปริมาณมาก.
น้ำตาลสามารถเปลี่ยนรูปและแยกออกเป็นสารที่แตกต่างกัน เช่น น้ำตาลประเภทน้ำตาลป้อน (granulated sugar) ที่เราใช้ในการขโมยและทำขนมหวาน น้ำตาลประเภทน้ำตาลทราย (brown sugar) ที่มีลักษณะเป็นเม็ดสีน้ำตาลเข้ม และน้ำตาลประเภทน้ำตาลแป้ง (powdered sugar) หรือน้ำตาลไอซิ่ง (icing sugar) ที่ใช้ในการทำครีมฝอยและซอสขนมหวาน ทั้งนี้น้ำตาลมีหลายรูปแบบและออกมาในรูปแม้ว่าเราจะเรียกว่า “น้ำตาล” ก็ตาม.
ยิ่งไปกว่านี้ น้ำตาลยังสามารถผลิตจากพืชอื่น ๆ และแหล่งที่มาทางสัตว์ เช่น น้ำตาลปาล์ม (palm sugar) ที่ทำจากสมุนไพรปาล์มและน้ำตาลน้ำซึ่งได้จากเส้นใยละลายของต้นตาลน้ำที่สกัดออกมา นอกจากนี้ น้ำตาลยังสามารถผลิตจากน้ำผึ้ง (honey) ซึ่งเป็นสารหวานที่ผลิตโดยผึ้งและแมลงเช่น ผึ้งรวบรวมมา.
ดังนั้น น้ำตาลมีหลายแหล่งที่มาและรูปแบบต่าง ๆ ขึ้นอยู่กับว่ามาจากอะไรและถูกนำมาใช้งานอย่างไรในกระบวนการผลิตและทำอาหาร.